วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

การจัดการมูลฝอยในตลาดสดกรณีตลาดสามย่านและตลาดมหาชัยเมืองใหม่

การจัดการมูลฝอยในตลาดสดกรณีตลาดสามย่านและตลาดมหาชัยเมืองใหม่
A study of market waste management inSam Yan and Mahachai Muang Mai

สัจมาน  ตรันเจริญ,ปิยาภัสร์  ชูแก้วงาม,เชิดศักดิ์  โกศัลวัฒน์,คมสัน  แสนศรี
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาเชิงสำรวจ (Survey Research)มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการจัดการมูลฝอย  ในตลาดสามย่านและตลาดมหาชัยเมืองใหม่และเพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมจัดการกับปัญหามูลฝอยในตลาดสด  ผลการศึกษาพบว่า
ตลาดสามย่าน    จำนวนแผงค้าฝนตลาดสามย่านมีทั้งหมด 98 แผง  จำนวนแบบสอบถามที่ได้รับกลับคืนมาจำนวน 58 ราย เป็นชาย 18 คน (ร้อยละ 31.0) หญิง 40 คน (ร้อยละ 69)
ผู้ค้าส่วนใหญ่มีอายุ36-45ปี 15 คน (ร้อยละ 25.90) พิจารณาระดับการศึกษาส่วนใหญ่จบปริญญาตรี 20 คน (ร้อยละ 34.5) รายได้ส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 10,001 – 15,000 บาท 17 คน (ร้อยละ 29.30) และส่วนใหญ่ได้รับข้อมูลข่าวสารด้านการจัดการมูลฝอย 39 คน (ร้อยละ 67.20) ได้รับผ่านทางโทรทัศน์มากที่สุด 11 คน (ร้อยละ 19.0) สำหรับข้อมูลข่าวสารที่ได้รับพบว่าเป็นเรื่องการคัดแยกมูลฝอย 8 คน (ร้อยละ13.80) ผู้ค้ามีความรู้เกี่ยวกับการจัดการมูลฝอย คะแนนเฉลี่ย 0.65มีความรู้ในระดับปานกลาง มีทัศนคติเกี่ยวกับการจัดการมูลฝอย คะแนนเฉลี่ย 3.31 ในระดับปานกลาง ผู้ค้ามีการจัดการมูลฝอย คะแนนเฉลี่ย2.33 การจัดการมูลฝอยในระดับต่ำ ผลการศึกษาองค์ประกอบของมูลฝอย พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ89.55เป็นเศษผัก เศษอาหารซึ่งมีองค์ประกอบของอินทรียวัตถุค่อนข้างสูง
ตลาดมหาชัยเมืองใหม่     จำนวนแผงค้าฝนตลาดสามย่านมีทั้งหมด 25 แผง  จำนวนแบบสอบถามที่ได้รับกลับคืนมาจำนวน 12 ราย เป็นชาย 3 คน (ร้อยละ 25.0) หญิง 9 คน (ร้อยละ 75)ผู้ค้าส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 46-55 ปี 4 คน(ร้อยละ 33.30)ระดับประถมศึกษา 5 คน (ร้อยละ 41.70) รายได้ต่อเดือน 5,001 – 10,000 บาท 4 คน (ร้อยละ 33.30)และส่วนใหญ่ได้รับข้อมูลข่าวสารด้านการจัดการมูลฝอย 11 คน (ร้อยละ 91.70) ได้รับผ่านทางโทรทัศน์มากที่สุก 4 คน (ร้อยละ33.30) สำหรับข้อมูลข่าวสารที่ได้รับเป็นเรื่องการคัดแยกมูลฝอย 5 คน (ร้อยละ 41.70) ผู้ค้ามีความรู้เกี่ยวกับการจัดการมูลฝอย คะแนนเฉลี่ย 0.65มีความรู้ในระดับปานกลาง  มีทัศนคติเกี่ยวกับการจัดการมูลฝอย  คะแนนเฉลี่ย 3.60 ในระดับปานกลาง ผู้ค้ามีการจัดการมูลฝอยคะแนนเฉลี่ย2.12 การจัดการมูลฝอยในระดับต่ำผลการศึกษาองค์ประกอบของมูลฝอย พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ83.44 เป็นเศษผัก อาหารซึ่งมีองค์ประกอบของอินทรียวัตถุค่อนข้างสูง
สรุปผลและข้อเสนอแนะ
-แนวทางการจัดการมูลฝอยในตลาดสามย่านและตลาดมหาชัยเมืองใหม่ใช้หลักการ 3 R ลดการใช้ (Reduce)ใช้ซ้ำ(Reuse)และการรีไซเคิล(Recycle)
-ควรมีการคัดแยกมูลฝอยในตลาดจำพวกเศษผักเศษอาหารออกจากมูลฝอยพวกถุงพลาสติก
- รณรงค์ สร้างความรู้ ความเข้าใจ ถึงประโยชน์จากการลดปริมาณและคัดแยกมูลฝอย  รวมทั้งประชาสัมพันธ์ เชิญชวนผู้ค้าในตลาดสด และประชาชนให้ความร่วมมือ
- จัดกิจกรรมการลดมูลฝอยในตลาดสด ได้แก่ การนำเศษผัก ผลไม้ หรือเศษอาหารมาทำน้ำหมักชีวิภาพหรือก๊าซชีวภาพและการจัดกิจกรรมการคัดแยกมูลฝอย เป็นต้น

คำสำคัญ มูลฝอย  ตลาดสามย่าน  ตลาดมหาชัยเมืองใหม่

วันพุธที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

งานวิจัยการสำรวจอนามัยสิ่งแวดล้อมและพฤติกรรมการป้องกันควบคุมโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี


การสำรวจอนามัยสิ่งแวดล้อมและพฤติกรรมการป้องกันควบคุมโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีของตำบลหนองม่วงไข่ อำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่

Environmental Health and Preventive Behavior Control of Liver Fluke Disease and Cholangiocarcinoma of Nong Muang Kai  Survey,

 Nong Muang Kai District, Phrae Province

สัจมาน  ตรันเจริญ,วิภา  รุจิจนากุล,ประโชติ กราบกราน

สำนักอนามัยสิ่งแวดล้อม  กรมอนามัย

1.หลักการและเหตุผล

ตำบลหนองม่วงไข่ อำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่ มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 4,640 คน แยกเป็นชาย 2,184 คน  คิดเป็นร้อยละ 47.07หญิง 2,456 คน คิดเป็นร้อยละ 52.93จำนวนครัวเรือน 1,755 ครัวเรือนมีความหนาแน่นเฉลี่ย 193คน/ตารางกิโลเมตรทิศเหนือ ติดต่อกับ ตำบลหัวเมือง อำเภอสอง,ตำบลแม่ยางร้อง ตำบลแม่ยางตาล อำเภอร้องกวาง ทิศใต้ ติดต่อกับ ตำบลวังหงส์,ตำบลแม่คำมี อำเภอเมือง ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ตำบลแม่คำมี อำเภอหนองม่วงไข่   ทิศตะวันตก   ติดต่อกับ ตำบลน้ำรัด, ตำบลวังหลวง อำเภอหนองม่วงไข่

            ตำบลหนองม่วงไข่  นับว่าเป็นพื้นที่ที่มีอัตราความชุกของการระบาดของโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีสูงสุดของจังหวัดในภาคเหนือ    คนที่เป็นโรคพยาธิใบไม้ตับ เกิดจากการกินอาหารประเภทปลาน้ำจืดเกล็ดขาวในวงศ์ปลาตะเพียน เช่น ปลาตะเพียนขาว ปลาสร้อย ปลาซิว ปลากะสูบ เป็นต้น ที่มีตัวอ่อนระยะติดต่อของพยาธิใบไม้ตับแบบปรุงสุก ๆ ดิบ ๆ เช่น ก้อยปลา  ปลาจ่อม  ปลาส้ม ปลาร้าดิบ เป็นต้น เมื่อตัวอ่อนระยะติดต่อของพยาธิใบไม้ตับเข้าสู่ร่างกายจะผ่านกระเพาะอาหารเข้าสู่ลำไส้เล็ก  จากลำไส้เล็กจะเข้าสู่ท่อน้ำดีและจะอยู่อาศัยเจริญเติบโตเป็นพยาธิใบไม้ตับตัวเต็มวัยเมื่อผสมพันธุ์แล้วสร้างไข่จำนวนมากออกมาซึ่งจะปะปนมากับน้ำดีและลงสู่ลำไส้เล็ก  ลำไส้ใหญ่  และออกมากับอุจจาระหากถ่ายอุจจาระไม่ถูกสุขลักษณะ เช่นถ่ายอุจจาระลงสู่แหล่งน้ำ ไข่พยาธิใบไม้ตับในอุจจาระจึงปนเปื้อนลงสู่แหล่งน้ำ      จึงได้ทำการสำรวจนามัยสิ่งแวดล้อมและพฤติกรรมการป้องกันควบคุมโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีของตำบลหนองม่วงไข่เพื่อประเมินสถานการณ์และหาแนวทางแก้ไขปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีในพื้นที่ตำบลหนองม่วงไข่

2.วัตถุประสงค์

1.เพื่อศึกษาสถานการณ์อนามัยสิ่งแวดล้อมและพฤติกรรมการป้องกันควบคุมโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีในพื้นที่ตำบลหนองม่วงไข่ อำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่

2.เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีในพื้นที่ตำบลหนองม่วงไข่

3. วิธีการศึกษา

การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ (survey research) โดยสอบถามอนามัยสิ่งแวดล้อมและพฤติกรรมการป้องกันควบคุมโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีกับประชาชนในพื้นที่ตำบลหนองม่วงไข่ อำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่ โดยมีขั้นตอนการศึกษาดังนี้

1. จัดทำแบบสอบถามอนามัยสิ่งแวดล้อมและพฤติกรรมการป้องกันควบคุมโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี

2. ดำเนินการสำรวจอนามัยสิ่งแวดล้อมและพฤติกรรมการป้องกันควบคุมโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี

3. ประมวลผลจาการสำรวจ

4. นำข้อมูลและข้อเสนอแนะที่ได้ไปพัฒนาเพื่อเป็นต้นแบบการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี

4.ผลการศึกษา

การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ (survey research) โดยสอบถามด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมและพฤติกรรมการป้องกันควบคุมโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีของประชาชนในพื้นที่ตำบลหนองม่วงไข่จำนวน 1,333 หลังคาเรือนเป็นเพศชาย 404 คน คิดเป็นร้อยละ 30.31 เพศหญิง 863 คน คิดเป็นร้อยละ 64.74 ไม่ระบุ     66 คน  คิดเป็นร้อยละ 4.95 

ผลการสำรวจพบว่ามีส้วมใช้ 100 % อายุบ่อเกรอะมีอายุมากกว่า 20 ปี ร้อยละ 41.5 สภาพท่อระบายสิ่งปฏิกูล ถังเก็บกักไม่รั่วแตกหรือชำรุดร้อยละ 92.57 และถ่ายอุจจาระลงส้วมทุกครั้ง  ร้อยละ 97.07 แต่ยังมีอยู่จำนวน 39 รายร้อยละ 2.93 ที่ไม่ถ่ายลงในส้วม ในส่วนการจัดการสิ่งปฏิกูลเมื่อส้วมเต็มมีรถสูบสิ่งปฏิกูลของเทศบาลมาสูบ ร้อยละ 5.78 รถสูบสิ่งปฏิกูลของเอกชนมาสูบ ร้อยละ 92.65 อื่น ๆ ร้อยละ 1.58 การได้รับอนุญาตของรถเอกชน  ได้รับอนุญาต ร้อยละ 94.30  ไม่ได้รับอนุญาต ร้อยละ 2.40 ไม่ทราบ ร้อยละ 3.30  สุขวิทยาส่วนบุคคล พบว่า   ล้างมือด้วยสบู่ก่อนรับประทานอาหาร  ทุกครั้ง ร้อยละ 45.84 บ่อย ร้อยละ 15.75 นานๆครั้ง ร้อยละ 22.66 ไม่ทุกครั้ง ร้อยละ 15.75 ล้างมือด้วยสบู่หลังการขับถ่ายทุกครั้ง  ทุกครั้ง ร้อยละ 63.69 บ่อย ร้อยละ 13.05 นานๆ ครั้ง ร้อยละ 13.28  ไม่ทุกครั้ง ร้อยละ 9.98 เป็นผู้ปรุง/ประกอบอาหารของครัวเรือน ใช่ ร้อยละ 71.42  ไม่ใช่ ร้อยละ 28.58  ผู้ปรุง/ประกอบอาหารของครัวเรือนล้างมือด้วยสบู่ก่อนการประกอบอาหาร   ทุกครั้งร้อยละ 49.4 บ่อย ร้อยละ 20.8  นานๆ ครั้ง ร้อยละ 15.80  ไม่ทุกครั้ง ร้อยละ 12.50  การตรวจสุขภาพ พบว่า เคยตรวจอุจจาระหาไข่พยาธิ  ไม่เคย ร้อยละ 33.68  เคย ร้อยละ 66.32  ผลการตรวจหาไข่พยาธิ ไม่พบไข่พยาธิ ร้อยละ 83.8  พบไข่พยาธิ ร้อยละ 3.6 ไม่ทราบ/จำไม่ได้ร้อยละ 12.6  กรณีตรวจพบไข่พยาธิ  ไม่ได้รับการรักษา  ร้อยละ 0.2 ได้รับการรักษาร้อยละ 2.1  ครอบครัวเคยมีผู้ติดเชื้อ  ผู้ป่วยหรือเสียชีวิตจากมะเร็งท่อน้ำดี  ไม่มี ร้อยละ 46.30 มี/เสียชีวิตแล้ว ร้อยละ 5.80  มี/ยังมีชีวิตอยู่ ร้อยละ 0.20 ไม่ตอบ ร้อยละ 47.80  พฤติกรรมการกินปลาดิบ  พบว่ากินประจำ จำนวน 13 ครัวเรือน ร้อยละ 1.0 กินบางครั้ง จำนวน 332 ครัวเรือน ร้อยละ 24.9 ความรู้และความเข้าใจเรื่องโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี พบว่า ยังเข้าใจผิดว่าวิธีการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ในตับที่ดีที่สุดคือการกินยารักษา  ร้อยละ 57.1 เข้าใจผิดว่ายาฆ่าพยาธิใบไม้ตับสามารถกินได้บ่อย ๆ ไม่มีผลเสียต่อร่างกาย  ร้อยละ 46.2 เข้าใจผิดว่าการชิมปลาดิบเพียงเล็กน้อยไม่ทำให้เป็นโรคพยาธิใบไม้ตับ  ร้อยละ 48.2  เข้าใจผิดว่าการกินกุ้งดิบ หอยดิบทำให้เป็นโรคพยาธิใบไม้ตับ ร้อยละ 73.8

5.ข้อเสนอแนะ

ควรให้ความรู้เรื่องระบบการบำบัดแบบติดกับที่และประสิทธิภาพของระบบบ่อเกรอะบ่อซึม,ให้ความรู้เรื่องพฤติกรรมการขับถ่ายที่ถูกต้อง,รณรงค์การขับถ่ายโดยใช้ส้วมที่ถูกสุขลักษณะให้,ความรู้เรื่องการจัดการสิ่งปฏิกูลที่ถูกสุขลักษณะ,ให้ความรู้เรื่องรถขนถ่ายสิ่งปฏิกูลที่ถูกสุขลักษณะให้สุขศึกษาเรื่องการไม่กินปลาดิบ,สร้างความเข้าใจเรื่องโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี