อยากแนะนำให้คุณผู้อ่านทราบหน่ะค่ะว่า ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่น่าจะรู้จักกันมากขึ้นคือ ระบบการแยกปัสสาวะออกจากระบบท่อน้ำโสโครก
( Sewerage System with Urine Diversion) พูดกันง่าย ๆ ก็คือมีการแยกปัสสาวะก่อนที่จะลงไปในระบบ แยกตั้งแต่เริ่มการขับถ่ายเลยก็ว่าได้ ระบบนี้วัตถุประสงค์หลักจริงๆ ก็เพื่อนำปัสสาวะมาใช้ในเกษตร โดยทำกันอย่างจริงจัง ผู้เขียนได้อ่านเจอในคู่มือที่มีชื่อว่า Compendium of Sanitation Systems and Technologies ซึ่งพูดถึงเรื่องระบบที่ทำออกมาเป็นซี่รี่ย์เป็นเทมเพลส เพื่อให้เข้าใจและนำไปใช้กับการบริหารจัดการที่เกี่ยวข้องกับการจัดการสุขาภิบาล มาจาก Eawag: Swiss Federal Institute of Aquatic Science and Technology. Water and Sanitation in Developing Countries. http://www.eawag.ch/forschung/sandec/publikationen/compendium_e/index_EN.
ระบบการแยก/โอนปัสสาวะโดยท่อน้ำโสโครก (Sewerage System with Urine Diversion)
ระบบน้ำโสโครกนี้เป็นระบบที่ใช้กันอยู่แล้ว
แต่แตกต่างกันตรงที่เป็นระบบที่มีการใช้น้ำที่เป็นระบบ ชักโครกโดยแยกปัสสาวะออกมาจากโถ
หรือที่เรียกว่า “Urine
Diverting Flush Toilet (UDFT)” UDFT เป็นระบบพิเศษที่ช่วยให้ผู้ใช้ส้วมแยกของเสียจากการขับถ่ายได้สะดวก
นั่นคือการแยกอุจจาระและปัสสาวะ
ตลอดจนการรวบรวมน้ำปัสสาวะที่ปราศจากน้ำล้างที่ปนเปื้อน
สำหรับส่วนที่แยกอุจจาระหรือ “Brownwater” ก็จะทำการชักโครกลงระบบต่อไป
พิจารณาตามระบบ ดังนี้
1. ปัจจัยนำเข้าระบบนี้ (inputs products) ได้แก่ อุจจาระ (Faeces), ปัสสาวะ
(Urine), น้ำชักโครก (Flushwater), น้ำชำระภายหลังการขับถ่าย
(Anal Cleansing Water), วัตถุดิบสำหรับชำระล้าง (Dry Cleansing Material), น้ำฝน (Stormwater), และน้ำชำระล้าง (Greywater)
2.สุขภัณฑ์ (User
Interface) หรือส่วนที่ต้องสัมผัสกับผู้ใช้
เทคโนโลยีที่ใช้ในส่วนนี้ เป็นระบบชักโครกโดยแยกปัสสาวะออกมาจากโถชักโครก (Urine
Diverting Flush Toilet : UDFT) และโถปัสสาวะชาย(Urinal) อย่างไรก็ตามระบบ UDFT สามารถใช้ได้ทั้งเพศหญิงและเพศชาย
ถึงแม้ว่าเพศชายจะมีโถปัสสาวะอยู่แล้วก็ตาม
ก็สามารถใช้ได้ร่วมกับระบบนี้ซึ่งเป็นทางเลือกสำหรับผู้ใช้งาน
3.น้ำชักโครกอุจจาระ (Brownwater)
และ (ปัสสาวะ) จะแยกในขั้นตอนของเทคโนโลยีที่สัมผัสกับผู้ใช้ (User
Interface) น้ำชักโครกอุจจาระจะเข้าสู่ระบบท่อน้ำโสโครกและถูกเก็บรวบรวมแล้วนำไปบำบัดด้วยระบบบำบัดน้ำเสียแบบกึ่งศูนย์กลาง
((Semi-) Centralized Treatment facility) โดยต่อเข้ากับระบบระบายน้ำเสียแบบทั่วไปหรือแบบอย่างง่าย
(Simplified Sewer network ) หรือระบบระบายน้ำเสียแบบท่อแรงโน้มถ่วง (Gravity Sewer network)
4.น้ำซักล้าง (Greywater) ถูกส่งไปยังท่อระบายน้ำเสียแต่ยังไม่ได้รับการบำบัด
ในบางสภาวะแวดล้อม,น้ำฝนที่ถูกชะล้างจะไหลลงไปยังท่อระบายน้ำแม้ว่าจะล้นจากรางระบายน้ำก็ตาม
น้ำปัสสาวะจะถูกแยกออกไปตรงจุดที่สุขภัณฑ์สัมผัสกับผู้ใช้งานโดยตรงโดยจะเชื่อมกับถัง/แทงก์สะสม
(Storage Tank)
และจากถังสะสมก็จะนำไปใช้ประโยชน์หรือกำจัดโดยใช้แบบกระป๋องที่เรียกว่า“Jerry
can” หรือที่เป็นแกลลอน “Moto rized E&T” สำหรับการนำน้ำปัสสาวะไปใช้ปรับปรุงดินเพื่อการเกษตร
(agricultural lands)
5.น้ำชักโครกอุจจาระ (Brownwater) ถูกนำไปบำบัดยังระบบแบบ
(กึ่ง) ศูนย์กลาง กากตะกอนอุจจาระ (Faecal Sludge)
ที่เกิดขึ้นในระบบนี้ ควรจะต้องนำกากตะกอนไปบำบัดเพื่อการใช้ปรับปรุงพื้นที่/ดิน(Land
Application) หรือการกำจัดด้วยเทคโนโลยี (Surface
Disposal) เทคโนโลยีที่นำมาใช้บำบัดหรือกำจัดน้ำเสียหรือสิ่งขับถ่ายมนุษย์นี้จะถูกรวบรวมจากเทคโนโลยี
รวมถึงระบบระบายน้ำ ,Aqua culture, Macrophyte Pond
หรือการปล่อยน้ำทิ้งไปยังแหล่งน้ำตามธรรมชาติหรือการปนเปื้อน/ไหลซึมลงสู่น้ำใต้ดิน
จากที่กล่าวมาข้างต้นการพิจารณา UDFTs เป็นระบบที่ไม่ธรรมดาและต้นทุนการใช้ระบบนี้ค่อนข้างสูง เป็นข้อเท็จจริงสำหรับข้อจำกัดของระบบนี้หากพูดในเชิงด้านการตลาดเนื่องจากระบบนี้ต้องใช้แรงดันสูงหรือปั๊มที่มีคุณภาพสูงหรือต้องมีระบบประปาถึงจะใช้เทคโนโลยีนี้ได้ นอกจากนี้การใช้ระบบระบายน้ำเสียแบบท่อแรงโน้มถ่วง (Gravity
Sewers) ต้องใช้พื้นที่ขุดท่อค่อนข้างกว้างและค่าติดตั้งแพง แต่ระบบระบายน้ำเสียแบบท่ออย่างง่าย (Simplified
Sewers) หรือระบบท่อทั่วไป เป็นระบบที่ประหยัดกว่า เสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่า
ถ้าหากแบบแปลนที่ออกแบบไว้ได้รับได้รับอนุญาตให้มีการก่อสร้างได้ ดังนั้นนัยสำคัญของระบบนี้ก็คือเป็นระบบของเสียจากการขับถ่ายที่ใช้น้ำในการขับเคลื่อนที่หรือระบบชักโครกเหมาะสำหรับความต้องการที่จะต้องนำของเสียไปใช้งานโดยเฉพาะปัสสาวะ
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของท่อระบายน้ำเสียที่ใช้กับระบบนี้ด้วยและสามารถปรับใช้กับพื้นที่ในเมืองและชานเมืองหรือที่มีประชากรหนาแน่น
และยังไม่เหมาะกับพื้นที่ในเขตชนบทเนื่องจากเป็นระบบชักโครกที่ต้องอาศัยแรงดันของน้ำค่อนข้างสูงประกอบกับข้อจำกัดเรื่องทรัพยากรน้ำในบางพื้นที่
หรือมีอุปทานคงที่ของความต้องการน้ำเพื่อการใช้สอยและอาจต้องไม่ต้องกังวลหรือปัญหาเรื่องระบบท่อมากนัก นอกจากนี้ยังอาจเป็นประโยชน์ต่อระบบบำบัดน้ำเสียในกรณีที่ต้องรับภาระบำบัดอินทรีย์ที่มีค่ามากกว่าออกแบบไว้โดยเฉพาะของเสียจากการขับถ่ายที่มีสารอาหารของพืช
เพื่อลดไม่ให้มีมากจนเกินไปโดยเฉพาะปัสสาวะที่มีการนำไปใช้ประโยชน์ก่อนที่จะรวมไปกับระบบบำบัดน้ำเสีย
อย่างไรก็ตาม ถ้าพืชยังได้รับสารอาหารจากระบบบำบัดน้ำเสียแบบเดิมก็จะเพิ่มการเจริญเติบโตของพืชน้ำเช่น
ผักตบชวา สาหร่าย ฯ ซึ่งระบบนี้อาจจะเพิ่มปัญหาต่อไปก็ได้ และขึ้นกับโครงสร้าง ระบบการจัดการประเภทของท่อระบายน้ำเสีย(โดยเฉพาะที่ใช้ในเมืองและชุมชนนั่นคือ ท่อแบบอย่างง่ายและแบบโน้มถ่วง) และวัสดุให้เลือกใช้หลากหลายชนิด
และต้องอาศัยการดูแลบำรุงรักษาด้วย

ภาพ “Urine Diverting Flush Toilet ”หรือ UDFT
